วิตามินอี, วิตามินซี, แร่ธาตุต่างๆ เช่น เหล็ก แคลเซียม แมกนีเซียม และกรดอะมิโนกว่า 17 ชนิด
Dr.Wheatgrass เป็นผลิตภัณฑ์หลากชนิดที่มีส่วนผสมหลักจาก Wheatgrass ผ่านการทดสอบและใช้ประโยชน์จากสารต้านอนุมูลอิสระสูงจากต้นอ่อนทานตะวัน มาบำรุงรักษาเซลล์ในร่างกายอย่างเข้มข้น รักษาอาการผิดปกติและป้องกันเชื้อโรคเช่น การรักษาอาการติดเชื้อของผู้ป่วยเบาหวาน การรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ การรักษาอาการผิวหนังไหม้ การชะลอวัยบำรุงความงาม รักษาผิวเสีย บำบัดผิวที่เกิดปัญหาสิวอักเสบ และปัญหาผิวหลายชนิด ใช้ต้นอ่อนทานตะวันในการปฐมพยาบาลอาการผิดปกติหลายชนิด การบำรุงร่างกายของผู้ใหญ่ เด็ก และคนชรา
ผลิตภัณฑ์ของ Dr.Wheatgrassเน้นการใช้ Juice หรือน้ำสกัดจากต้นอ่อนทานตะวันปรับการบำรุง เพิ่มสารอาหารและวิตามินโดยการพัฒนาของ Dr Chris Reynolds ผู้มีผลงานวิจัยเกี่ยวกับ Wheatgrass และชี้ให้คนทั่วไปได้เห็นถึงความสำคัญของต้นหญ้าเล็กๆ เหล่านี้ จุดประกายการตระหนักถึงความสำคัญและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง จน Dr Wheatgrass กลายเป็นผลิตภัณฑ์ชั้นนำของประเทศออสเตรเลียที่ส่งออกและได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ
ในมุมมองของคนทั่วไปมักคิดว่าต้นอ่อนข้าวสาลีก็เป็นเพียงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดหนึ่ง แต่ความจริงที่มากกว่านั้นคือ Wheatgrass เป็นตัวช่วยรักษาสุขภาพที่มีประสิทธิภาพสูง เป็นตัวยารักษาร่างกายที่มีคุณภาพสูงที่ยังไม่นิยมนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและโภชนาการมากนัก
ต้นอ่อนข้าวสาลีหรือ Wheatgrass ถูกนำมาใช้รักษาโรคมานานหลายศตวรรษ ในปี 1930 เกิดความนิยมบูมขึ้นมาทำให้เป็นที่รู้จักกันในวงกว้างว่าเป็นสารอาหารที่มีต้นทุนต่ำแต่ประสิทธิภาพที่น่าทึ่ง เช่นการนำมารักษาแผลหลังการผ่าตัดและแผลไฟไหม้ คุณสมบัติเหล่านี้กลับถูกกล่าวขวัญในนามของคลอโรฟิลด์ที่เป็นที่นิยมแม้กระทั่งเป็นส่วนประกอบในยาสีฟัน
อย่างไรก็ตามการวิจัยด้านชีวเคมีของต้นอ่อนข้าวสาลีก็ถูกพัฒนามาถึงด้านคุณสมบัติด้านการรักษาร่างกาย พบว่ามีวิตามินเค(Vitamin K) ที่มีคุณประโยชน์หลายอย่างเช่น ให้การกระตุ้นการเจริญเติบโตและสุขภาพที่ดีขึ้นของสัตว์ทดลองอย่างน่าแปลกใจ ดังนั้นการค้นพบประโยชน์ของคลอโรฟิลด์เมื่อปี 1930 จึงเป็นจุดกำเนิดของการค้นพบ Grass juice Factor
Grass Juice Factor ไม่ได้หมายความถึงต้นอ่อนข้าวสาลีเพียงอย่างเดียว แต่ยังหมายรวมถึงธัญพืชชนิดต่างๆ ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เล่ย์ ถั่ว กะหล่ำปลี และพืขอื่นๆ อีกมากมายที่มีความเข้มข้นสูง แต่ในอดีตดูจะนิยมศึกษาเพื่อวิจัยด้านคลอโรฟิลด์มากกว่าคุณประโยชน์ด้านอื่น
และเมื่อใจปี 1995 Dr. Chris Reynolds. M.B.,B.S.ได้ริเริ่มใช้สารสกัดจากต้นอ่อนข้าวสาลีและประสบความสำเร็จในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บมากมายหลายประเภท รวมถึงการรักษากลาก, รักษาแผลไฟไหม้ และการรักษาโรคด้านผิวหนังอื่นๆ อีกมากมาย โดยสารสกัดที่นำมาใช้ไม่มีคลอโรฟิลด์เป็นส่วนประกอบเพราะไม่มีส่วนช่วยในการรักษาแผลบนผิวหนัง ด้วยต้นอ่อนข้าวสาลีที่ถูกเลี้ยงมาให้เจอแสงแดดน้อยที่สุด
ปัจจัยจากน้ำในหญ้าเป็นคุณลักษณะหลักที่มีผลต่อการรักษาอาการอักเสบการห้ามเลือด และการสร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน Dr.Chris Reynolds ได้เริ่มต้นรักษาบาดแผลด้วยต้นอ่อนข้าวสาลีในรูปแบบครีมรักษาอาการเนื้อเยื่อบวม กับผู้มีปัญหาข้อเท้าแพลง ผลปรากฏว่าภายในเวลา 20 นาที ผู้ป่วยสามารถกลับมาเดินได้โดยไม่ต้องใช้ไม้คำยัน และความเจ็บปวดของอาการข้อเท้าแพลงก็ลดลงได้ ในวันรุ่งขึ้นอาการบวมก็หายและสามารถเดินได้อย่างสะดวกมากขึ้น ถือว่าอัตราการฟื้นตัวเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่าที่คาดไว้ อาการบาดเจ็บของเนื้อเยื่ออ่อนตอบสนองต่อการลดลงอย่างรวดเร็วของอาการบวมและปวดข้อเท้า ไม่ส่งผลให้บวมช้ำหรือเนื้อเปลี่ยนสีใดๆ แสดงให้เห็นว่าสารสกัดจากต้นอ่อนข้าวสาลีที่ใช้สามารถออกฤทธิ์ทางชีวภาพ มีความสามารถดูดซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วผ่านผิวหนังและเจาะลึกลงไปในเนื้อเยื่อได้โดยง่ายดาย
เราต่างสงสัยว่าทำไมต้นอ่อนข้าวสาลี Wheatgrass ไม่ได้รับการให้ความสนใจมากเท่าที่ควร นอกจากการเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ แต่ด้วยผลการทดลองที่ปรากฏให้เห็นชัดเจนทำให้ Dr.Chris Reynolds ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาบาดแผลด้วยข้าวสาลี ไม่ว่าจะเป็นการรักษาอาการแสบไหม้ของผิว โรคกราก อาการติดเชื้อ แผลอักเสบ และอาการปวดที่หายไปได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง จนทำการพัฒนาผลิตภัณฑ์และรวบรวมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของประสบการการรักษาที่น่าตื่นตาตื่นใจแบ่งปันเผยแพร่ความรู้อยู่เสมอนอกจากรักษาบาดแผลในคนแล้ว สัตวแพทย์บางส่วนยังนำเอาสารสกัดจากต้นข้าวสาลีไปทดลองใช้และค้นพบความสามารถในการรักษาบาดแผลเช่นเดียวกัน รักษาอาการบาดเจ็บ รักษาเนื้อเยื่อในทางพยาธิวิทยา
ต้นอ่อนข้าวสาลียังมีความลับที่ซ่อนไว้อีกมากมายที่เรายังอาจค้นไม่พบ อย่างไรก็ตามคุณประโยชน์ที่เราได้ค้นพบก็เผยความลับที่น่าทึ่งทำให้ต้นอ่อนข้าวสาลี Wheatgrass เริ่มเป็นที่รู้จักในวงการอุตสาหกรรมเวชภัณฑ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ต้นอ่อนข้าวสาลีมีปริมาณสารอาหารที่มีประโยชน์สูงต่อร่างกายหลายชนิด ประกอบด้วยคลอโรฟิลด์ถึงร้อยละ 70 และวิตามินอี, วิตามินซี, แร่ธาตุต่างๆ เช่น เหล็ก แคลเซียม แมกนีเซียม และกรดอะมิโนกว่า 17 ชนิด
คลอโรฟิลด์ ช่วยการเพิ่มจำนวนของเม็ดเลือดแดง เพิ่มปริมาณฮีโมโกลบินในเลือด แพทย์หลายประเทศแนะนำให้ผู้ป่วยภาวะเลือดจางรับประทาน Wheatgrass เพื่อให้คลอโรฟิลด์ช่วยการสร้างเม็ดเลือดป้องภันภาวะโลหิตจาง ทั้งจากโรคเรื้อรัง และป้องกันผลข้างเคียงจากการรับเคมีบำบัด(คีโม) สำหรับคนทั่วไปการทานสารอาหารที่มีคลอโรฟิลด์สูงอย่าง Wheatgrass ช่วยบำรุงเม็ดเลือดแดง ส่งสารอาหารไปสู่เซลล์รักษาความแข็งแรงของเซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกายได้ดี สุขภาพจึงแข็งแรงขึ้น รักษาความงามของผิวพรรณ ชะลอวัยได้
วิตามินที่เป็นส่วนประกอบใน Wheatgrass มีส่วนช่วยการต่อต้านสารอนุมูลอิสระ รักษาอาการบาดเจ็บของผิวหนังภายนอกและภายใน
บำรุงเซลล์และเนื้อเยื่อ รักษาความแข็งแรงของร่างกายต่อต้านการถูกทำลายจากสารอนุมูลอิสระที่เกิดได้จากกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวัน การทานสารต้านอนุมูลอิสระเป็นประจำจากผัก ผลไม้ สารอาหารเสริม วิตามิน จะช่วยชะลอวันให้ทั้งภายนอกดูสดใสแข็งแรง และสุขภาพดีจากภายใน
หลายเสียงยืนยันคุณสมบัติของ Wheatgrass ช่วยแก้ปัญหาเรื่องการมีบุตรยากได้จริง
หลายปัจจัยในชีวิตประจำวันของคนยุคนี้ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากโดยไม่รู้ตัวเนื่องจากสารอนุมูลอิสระก่อตัวในร่างกายมากเจนเกินไป ส่งผลต่อการเกิดภาวะมีบุตรยาก เช่น
1. การควบคุมน้ำหนัก สำหรับผู้หญิงหามีน้ำหนักเกินเกณฑ์มากเกินไปหรือน้อยเกินไปจะไปรบกวนการทำงานของฮอร์โมนระบบสืบพันธุ์ การตกไข่น้อยลง เกิดความผิดปกติของรอบเดือน ในผู้ชายน้ำหนักตัวมากเกินไปส่งผลให้ปริมาณอสุจิลดลง
2. การได้รับสารอาหารและวิตามินไม่เพียงพอ โภชนาการที่ไม่ดีทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระในร่างกายได้มากกว่าที่คิด ร่างกายเราจึงควรรับประทานสารอาหารที่ช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระให้เพียงพอต่อความต้องการ จะช่วยปรับปรุงภาวะการเจริญพันธุ์ได้ทั้งกับชายและหญิง
3. การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และดื่มกาแฟมากเกินไป ส่งผลต่อการผลิตฮอร์โมนเพศ เกิดภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่, สำหรับผู้ชายการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่มากเกินไปมีผลต่อคุณภาพและปริมาณเชื้ออสุจิเกิดภาวะมีบุตรยาก โดยเฉพาะผู้สูบบุหรี่จะเกิดสารอนุมูลอิสระที่ส่งผลร้ายแก่ร่างกายเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มีบุตรยาก
4. ความเครียด ความกังวล ภาวะซึมเศร้า ส่งผลโดยตรงต่ออัตราการตั้งครรภ์ที่ย้อยลง เกิดฮอร์โมนจากความเครียดรบกวนฮอร์โมนด้านการสืบพันธุ์
เมื่อร่างกายได้รับสารอนุมูลอิสระจากกิจกรรมต่างๆ ของร่างกายมากขึ้น จึงส่งผลต่อทั้งฮอร์โมนและความแข็งแรงในระบบสืบพันธุ์ ทำให้คนสมัยนี้มีปัญหาภาวะมีบุตรยากมากขึ้นเรื่อยๆ
จากเสียงยืนยันของผู้ทดลองใช้ Dr Wheatgrass เพื่อเสริมภาวะเจริญพันธุ์ “เมื่อเดือน ตุลาคมที่ผ่านมา ฉันมีค่า FSH 12.4 เลยเป็นกังวลและพยายามหาวิธีลดค่า FSH ให้ได้จึงเริ่มหาตัวช่วยด้วยการดื่มสารสกัดจากต้นอ่อนข้าวสาลี และเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ปรากฏว่าค่า FSH ลงไปเหลือ 10.9 !!! เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากทาน Dr Wheatgrass เท่านั้น ฉันรู้เลยว่ามันทำงานอย่างได้ผลจริงๆ” Jenny. 4 December, 2011
“ฉันเป็นผู้หญิงอายุ 45 ปี มีประวัติการผ่าตัดที่ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก หมอบอกว่าค่า FSH สูงเกินไปมากถึง 70 ไม่สามารถผสมเทียม(IVF)ได้ อย่างไรก็ตามฉันอ่านเรื่องประโยชน์ของต้นอ่อนข้าวสาลีที่มีศักยภาพด้านการรักษาสุขภาพ จึงตัดสินใจที่จะลองและทานเป็นยาคู่กับอาหารเสริมทุกวันเป็นเวลา 3 เดือน หลังจากนั้นได้มาทดสอบ FSH ใหม่พบว่าตอนนี้ค่า FSH เหลือเพียง 6.9 ตอนนี้สามารถผสมเทียม IVF ได้แล้ว ไม่น่าเชื่อแต่เป็นไปได้จริงๆ “Panpan. 11 February, 2008
ผู้ใหญ่ ดื่ม 5 ml ต่อวัน (1ฝา)
เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ดื่ม 2.5 ml ต่อวัน (ครึ่งฝา)
หมายเหตุ : เพื่อคุณประโยชน์สูงสุด ให้อม Dr WheatgrassSupershotไว้สักครู่หนึ่งก่อนกลืน